Saturday, 10 May 2025
เสกสกล อัตถาวงศ์

"แรมโบ้"ฟาด"พ่อโอ๊ค เคลมผลงาน"ลุงตู่"แบบหน้าไม่อาย  แนะ หยุดหาแสง หันหน้าหาธรรมะเสียบ้าง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทางด้านโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ ได้ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่าเหลือเชื่อที่ลุงตู่ไม่รู้ไม่เห็นว่ามีห้องเย็นกักตุนเนื้อหมูหลายแสนกิโล แถมยังแนะนำคนไทยให้ไปกินเนื้ออื่น จนคุณพ่อผมต้อง Work from Dubai โดยพูดชี้เป้าใน ClubHouse จึงได้มีการบุกไปตรวจสอบ และอายัดเนื้อหมู่ที่กักตุนไว้กว่า 2 แสนโล คราวหน้าบริหารประเทศมีปัญหาปรึกษาโทนี่ นะลุง 

นายเสกสกล กล่าวว่า กรณีการเข้าดำเนินการเข้าตรวจห้องเย็นนั้นเป็นผลมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกทางด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เพื่อกับชับการแก้ปัญหาเรื่องของราคาหมูแพงทั้งระบบ  ระหว่างทางด้านกรมปศุสัตว์ และ ทางด้านกรมการค้าภายในของกระทรวงพาณิชย์ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการในการตรวจสอบ  จนพบว่ามีการกักตุนเนื้อหมู  ส่วนพ่อของโอ๊ค ที่โอ๊ค บอกว่าเป็นผู้ชี้เป้านั้น พูดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ดังนั้นอยากจะถามว่าตกลงแล้ว ใครกันแน่ที่เดินหน้าแก้ปัญหานี้ ใครกันแน่นั่งเคลมผลงานของ รัฐบาล นั่งเคลมผลงานของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์   ฉกฉายทุกอย่างเพื่อเล่นการเมือง อยู่ตลอดเวลา โอ๊ค  เคยรู้ไหมว่า พ่อโอ๊ค เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจมากที่สุด  เพราะอะไร เพราะพ่อโอ๊ค เป็นคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง สามารถที่จะอ้างทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้องอยู่ตลอดเวลา แม้ว่า การอ้างนั้นจะต้องทำร้ายใคร ไปกี่คน แต่พ่อโอ๊ค ไม่เคยสนใจ ที่ผ่านมา โอ๊ค ลองหันกลับไปมองบ้างว่า พ่อโอ๊ค ทำร้ายใครเอาไว้บ้าง จนเขาเหล่านั้นที่เคยรับใช้พ่อโอ๊ค ต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุก ติดตาราง แล้วพ่อโอ๊ค เคยสนใจใยดีคนเหล่านั้นบ้างไหม 

นายเสกสกลยังกล่าวต่อว่า วันนี้นายทักษิณ กำลังกลายเป็นอดีตนายก ที่ถูกลืมไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ทำได้ก็พยายามหาแสง  ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา  แม้ว่าคนเขาจะรู้กันไปทั่วว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณ ไม่เคยได้สร้างประโยชน์ใดให้สังคมไทยเลย แต่เขาก็ยังกล้าที่จะเคลม ทุกเรื่องว่าเป็นผลงานของตัวเอง  ถ้านายทักษิณ เก่งจริง ก็ลองช่วยยกผลงาน ที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน มาให้ดูสัก 3 เรื่องได้ไหมว่า ตอนสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี นั้นเคยทำผลงานอะไรเอาไว้ให้คนไทย  ตนเชื่อว่าคนไทยไม่รู้เสียด้วยซำว่า นายทักษิณเคยทำประโยชน์ใดให้กับประเทศ แต่คนไทยจำได้ขึ้นใจว่า นายทักษิณ และน้องสาว หนีคดีทุจริต ไปอยู่ต่างประเทศ อันนี้แหละคือผลงานชิ้นโบว์แดงของนายทักษิณ 

“แรมโบ้” แนะ ปชช. จำชื่อส.ส.ทำสภาล่ม คราวหน้าอย่าเลือก เปลืองงบฯ เปลืองภาษี ไล่เอาปี๊บคลุมหัว

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรุงเทพโพลที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยกับโครงการคนละครึ่งเฟส 4” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.4 จะเข้าร่วม โครงการคนละครึ่งเฟส 4 และอยากให้มีโครงการ คนละครึ่งต่อไป ร้อยละ 69.3 อยากให้มีต่อไปจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะหายไป 

นายเสกสกล กล่าวว่าโครงการส่วนใหญ่ของรัฐบาล เป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างแท้จริงในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19  ดังนั้นจึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศอยากให้มีโครงการออกมาและอยากเข้าร่วมโครงการของทางภาครัฐ ตนเองยังได้รับคำชื่นชมจากพ่อค้าแม่ค้า ว่าอยากให้รัฐบาลทำโครงการคนละครึ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของคึกคัก แม้ว่าราคาสินค้าบางรายการจะมีราคาที่แพงขึ้น แต่สามารถนำโครงการคนละครึ่งไปซื้อได้

นายเสกสกล กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในตัวนายกฯและรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าแพง และจะหามาตรการใหม่ๆ ออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่านายกฯไม่ทอดทิ้งประชาชนในเวลาที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน นายกฯมีความจริงใจตั้งใจทำงาน ช่วยเหลือเยียวยาคนทุกกลุ่ม จนเป็นที่พอใจของพี่น้องประชาชน 

นายเสกสกล กล่าวว่า จะมีก็เพียงพรรคฝ่ายค้านที่นายกฯทำอะไรก็จะออกมาด่าทอใส่ร้ายโจมตี ไม่เคยชื่นชมในสิ่งที่นายกฯทำดี เล่นการเมืองมากจนเกินไปโดยไม่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง เพียงเพื่อล้มนายกฯ ล้มรัฐบาล หวังกลับมามีอำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง นักการเมืองประเภทนี้สุดท้ายประชาชนจะพิพากษาลงโทษเอง ยังเล่นการเมืองแบบน้ำเน่าไม่มีความคิดสร้างสรรค์

'แรมโบ้' โชว์ 'อดีตปธ.หมู่บ้านเสื้อแดง 4 ภาค' ประกาศ นำสมาชิกกว่า 28,850 หมู่บ้าน สมัครสมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติ ตีปี๊บ หนุน บิ๊กตู่ นายกฯอีกสมัย

ที่สำนักงานกพ.เดิม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้ง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เปิดเผยว่า ในวันเดียวกันนี้ นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้นำอดีตประหมู่บ้านเสื้อแดง 4 ภาค ประกอบด้วย นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายไวทิต ศิริสุวรรณ อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคกลาง และ นายทวี ประหยัด อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคใต้ และนายสุพล หมื่นศรีพรม อดีตคอมมิวนิสต์ “สหายธวัชชัย” ในฐานะประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)ยื่นเอกสารสมัครเป็นสมาชิก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” 

นายอานนท์ กล่าวว่า การสมัครเข้าพรรค รวมไทยสร้างชาติ เพื่อร่วมอุดมการณ์เป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็น “นายกรัฐมนตรี” อีกสมัย และต่อเนื่อง เพราะเป็นนายกฯที่เข้าถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างถูกต้องและตรงจุด และที่สำคัญในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก นายกฯก็สามารถนำประชาชนชาวไทยฟันฝ่าอุปสรรค และโรคร้ายไปได้ทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด จึงทำให้นานาประเทศยอมรับ เชิญไปร่วมทำการค้าขายฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่าง เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมกับการเปิดประเทศนำเอาแรงงานไทยไปทำงานยังประเทศซาอุฯอีกครั้งเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา

นายอานนท์ กล่าวว่า ตนได้ประสานงานและทำงานภายใต้สโลแกนที่ว่า “รวมไทยสร้างชาติ” ร่วมกับ นายเสกสกล มาตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2563 และได้ทำเสื้อออกมาให้แกนนำ “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” สวมใส่กันจนมาก่อตั้งจดทะเบียนเป็น “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ในช่วงเดือน มีนาคม 2564 คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชื่นชอบ และตั้งคำนี้ขึ้นมาเองแต่ทางนายเสกสกลเกรงว่าคนอื่นจะนำชื่อนี้ไปใช้ จึงส่งทีมงานไปจดทะเบียนเป็นชื่อพรรคไว้ก่อน นายกฯจะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่นายกฯ

นายอานนท์ กล่าวว่า ตนทราบว่าทาง นายเสกสกลได้แจ้งให้นายกฯประยุทธ์ รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯเองก็ไม่เห็นจะว่าอะไร และในอนาคตถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ก็ไม่แน่ เพราะประชาชนเองก็เรียกร้องมาเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการจะให้พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรค 

"แรมโบ้" หนุน "สมชาย” แนะ4 ข้อ ยื่นสอบส.ส.ทิ้งหน้าที่ อ้าแขน พร้อมช่วยปชช.ร้องป.ป.ช.ตรวจสอบ ชี้ ผิดจรรณยาบรรณร้ายแรง ลั่น ต้องดัดหลังส.ส.สันหลังยาว อย่าให้มีที่ยืนในสภาฯ  

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กถึงการประชุมสภาฯโดยฝ่ายค้านขอตรวจสอบองค์ประชุมรัฐบาล จนเกิดปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง โดยระบุว่าแก้ไม่ยาก ไม่ต้องยุบสภา แต่ให้มีคนรวบรวมข้อมูลนำข้อกฎหมาย ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงและส่งดำเนินคดีต่อศาลฎีกา

ซึ่งมีแนวทางดำเนินการ 4 ขั้นตอน ว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายสมชาย และถึงเวลาที่ประชาชน ผู้เป็นนายจ้างตัวจริงเสียงจริง ต้องดำเนินการจัดการกับพวก ส.ส.สันหลังยาว เพราะทุกคนรับเงินเดือน ครบทุกบาททุกสตางค์ แต่ไม่ยอมทำงานตามที่นายจ้างได้ว่าจ้าง แบบนี้ส.ส.เหล่านี้ทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง ผิดต่อจรรยาบรรณ การทำหน้าที่ส.ส. ที่ได้ชื่อว่าผู้ทรงเกียรติ แต่เวลานี้หลายคนทำตัวยิ่งกว่ากุ๊ยข้างถนน ถึงเวลาทำงานก็ไม่ทำงาน และยังเอาหน้าที่การงานมาเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและนายใหญ่ แบบนี้จะอยู่ไปทำอะไร  

“หากมีนักกฎหมายคนใด หรือประชาชน ที่พร้อมจะเดินหน้าดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมพร้อมที่สนับสนุนเต็มที่ จะต้องให้บทเรียนกับส.ส.สันหลังยาว ว่าถึงเวลานายจ้างตัวจริงไม่ทนอีกต่อไป ถึงเวลาที่ประชาชนต้องแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการส.ส. ที่ทำเพื่อตนเอง และพวกพ้อง แต่ต้องการ ส.ส. และนายกฯที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แบบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ หากมีนักกฎหมาย หรือ ประชาชน จะดำเนินการเรื่องนี้ สามารถประสานมาที่ผมได้ตลอดเวลา ยินดี ช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อจัดการ กับสส.บางคนบางพรรคที่ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบต่อประชาชนเหล่านี้ไม่ให้มีที่ยืนในสภาฯอันทรงเกียรติต่อไป ”นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอ4 ข้อ คือ 1.ยื่นคำร้องต่อสภาฯเพื่อตรวจสอบรายชื่อและพฤติกรรมว่ามีใครบ้าง ที่ไม่ร่วมประชุมไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมหรือลงมติ เป็นประจำ จนถือเป็นการจงใจทำให้สภาผู้แทนราษฎรล่ม17ครั้ง และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายหรือขัดขวางให้สภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทางนิติบัญญัติได้ 2.ตรวจสอบและสรุปการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นว่า เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) และมาตรา 235 (1) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28 (1) และมาตรา 87 และมีความผิดร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระฯ พ.ศ.2561 หมวด 1 ข้อ 7 หมวด 2 ข้อ 12 ข้อ 17 ข้อ21 และข้อ22  และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรราษฎรและกรรมาธิการ พศ. 2563 ข้อ 4 ข้อ7 ข้อ8 ข้อ14 หรือไม่

“เสกสกล” ซัด “ณัฐวุฒิ” ร้องเพลงรอก่อน ยัน “บิ๊กตู่” เดินหน้าไม่ถอย-ไม่สนเกมการเมือง 

การเมือง / ทำเนียบ / 13 ก.พ.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายขับไล่ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุช่วงหนึ่งว่า ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความขัดแย้งจริง โดยคู่ขัดแย้งคือพล.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯโดยฝ่ายพล.อ.ประวิตร มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นตัวเดิน มีเป้าหมายของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มีความรุนแรงถึงขั้นพังกันไปข้างหนึ่ง ว่า นายณัฐวุฒิ อย่าฉกฉวยเวลานี้แซะรัฐบาล ไม่มีประโยชน์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ยังอยู่ดูแลประชาชนจนครบวาระ  จะทำให้ประเทศไทย โดดเด่นในเวทีโลกจากการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปคในเดือนพ.ย.นี้

นายเสกสกล กล่าวว่า ตนเห็นใจนายณัฐวุฒิ คงอดอยากปากแห้งมาหลายปี แต่ขอให้รอไปก่อน ยังไม่ถึงเวลาของนายณัฐวุฒิ หากจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์นายณัฐวุฒิ และพรรคพวกก็คงไม่สามารถลอยหน้า หรืออยู่เป็นรัฐบาลเหมือนในอดีต ส่วนปัญหาในขณะนี้ เกิดจากฝ่ายนิติบัญญัติ โดยความพยายามของคนบางกลุ่มบางพวก ต้องการจะโยนหอกมาถึงมุ่งมาที่นายกฯ แต่ตนประกาศไปแล้วว่าไม่มีใครมาทำอะไรนายกฯได้ อย่าคิดว่านายกฯจะอ้างว้างโดดเดี่ยว หรือไม่มีที่ไป เพราะจากสำนักโพลต่างๆที่ออกมาก็ชัดเจน และพรรคการเมืองหลายพรรค พร้อมจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ให้ทำงานและให้เป็นนายกฯอีกสมัย เพราะตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเห็นในสิ่งที่นายกฯทำ โดยเฉพาะใจซื่อ มือสะอาด 

'แรมโบ้' ฟาดแรง 'โทนี่' ยกย่องเจ้าแม๊กซ์เป็นหมาฉลาดกัดเจ้าของเพราะรู้ว่าเป็นคนไม่ดี  เผยหากเปรียบตนเป็นกิ้งกือ ใส้เดือน แต่ก็ทำให้ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก จนได้เป็นนายกฯ ยันตั้งพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ไม่เกี่ยวข้อง 'บิ๊กตู่' เพราะท่านไม่ได้สั่งให้ไปตั้งพรรค 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ อดีตนายกรัฐมนตรี พูดถึงตนเองและเล่าเรื่องเลี้ยงสุนัข 50 ตัวในบ้าน ผ่านเพจแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ “จุดสิ้นสุดรัฐบาลตู่ พลิกเกมสู้ของแพง” โดยตนเองอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครรู้จักนายโทนี่เท่ากับตนเองแล้ว เพราะเป็นคนที่ทำให้นายโทนี่ ได้เป็น ส.ส.สมัยแรกในปี 2538  ในนามพรรคพลังธรรม เพราะนายโทนี่ ให้อดีผบทบ.คนหนึ่โทรตามตนเองให้เข้ามาช่วยในการเลือกตั้ง ดังนั้นไม่ควรที่จะเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับสุนัขที่บ้านว่าไม่รู้จักบุญคุณคน 

และตั้งแต่ตนเองได้ทำงานร่วมกับนายโทนี่และครอบครัวชินวัตร เป็นเวลากว่า 20 ปี ต้องยอมรับว่าผิดหวัง เพราะคิดว่านายโทนี่ เป็นหัวหน้า คนที่จะมาบริหารประเทศเป็นคนดี ทุ่มเททำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่แสวงหาประโยชน์ ซื่อสัตย์ แต่เวลาผ่านไปกลับพบว่าตนเองอยู่กับหัวหน้าโจร ที่ทุจริตคอรัปชั่น มีแต่ญาติพี่น้องเข้ามาครอบงำในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งคนในพรรคทราบเรื่องนี้ดี 

ส่วนที่นายโทนี่ กล่าวหาตนเองเป็นกิ้งกือ ใส้เดือน หรือเล่าเรื่องสุนัขที่บ้านชื่อแม็กซ์ ชอบมากัดเจ้าของตลอด มีลักษณะเปรียบเทียบเป็นตนเองนั้น นายเสกสกล ชี้แจงว่าหากเจ้าของหมาเป็นคนดี ประวัติดี ไม่เป็นหัวหน้าโจร เจ้าแม็กซ์ เป็นสุนัขฉลาดก็คงไม่กัด 

“ตนเองต้องขอยกย่องชื่นชมเจ้าแม็กซ์สุนัขตัวนี้ด้วยซ้ำที่มันฉลาดรู้ว่าเจ้าของเป็นขี้โกง และยังมองว่านายโทนี่ไม่ควรที่จะด้อยค่า ส.ส.ในเครือข่ายของตัวเองเปรียบเทียบเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ของคุณโทนี่เช่นเดียวกัน  และบรรดา ส.ส. พรรคเพื่อไทย หรือคนในพรรคน่าจะคิดได้แล้วว่าถูกมองอย่างไร้ค่า ส.ส.จะยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับคนที่มาดูถูกดูแคลนเช่นนี้ได้อย่างไร ซึ่งตนเองอายแทนพี่น้องประชาชน”

นายเสกสกล ยังเปิดเผยว่าในขณะที่ตนเองอยู่พรรคไทยรักไทย ได้เห็นพฤติกรรมของนายโทนี่เป็นหัวหน้าโจร เอาครอบครัวมาแสวงหาผลประโยชน์ ในประมาณปี2546-2547 มีตัวแทนภาคประชาชนมาร้องเรียนกับตัวเองซึ่งขณะนั้นเป็นสส.ด้วย ถึงความไม่ชอบมาพากลโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อาจจะมีการทุจริตเสียหายต่อรัฐประมาณ 500 ล้านบาท ตนเองจึงเข้าพบนายทักษิณสมัยนั้นเป็นนายกฯ ชี้แจงเรื่องราวต่างๆพร้อมเอกสารแต่นายทักษิณกลับบอกให้เลขาส่วนตัวรับไปจัดการเรื่องนี้  สุดท้ายโครงการก็ผ่านไปได้โดยที่ไม่มีการตรวจสอบ และยังให้เลขาส่วนตัวโทรมาบอกตนเองว่าอย่าเข้าไปยุ่ง ปล่อยไปให้เขาทำไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท ในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเสี่ย ป. เดินทางไปพบนายโทนี่ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันที่ตนเองไปพบนายโทนี่ พูดคุยเรื่องงานบ้านเมือง แต่ปรากฎว่าตนเองไม่ได้คุยเรื่องงานเลยนายโทนี่ไม่มีเวลาให้  เพราะนายโทนี่มีแต่เวลาคุยเรื่องผลประโยชน์ใต้โต๊ะ กับเจ้าของบริษัทต่างๆ หลายบริษัท ขากลับตนมีโอกาสเดินทางกลับมาพร้อมเสี่ย ป. โดยเครื่องบินส่วนตัวของเสี่ย ป.และเสี่ย ป.ได้เล่าข้อมูลให้ฟังว่าไปพบนายทักษิณ พูดคุยเรื่องผลประโยชน์ ส่วนแบ่ง ค่าคอมมิชชั่น และเรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดอีกคนคือเพื่อนรักนายทักษิณ ที่มีอักษรย่อ ช. อยู่ปักกิ่งเป็นคนวางแผนเดินเกมให้นายทักษิณในการจัดการเรื่องเงินทอน 

นายเสกสกล ยังระบุถึงกรณีที่นายโทนี่ กล่าวหาว่านายกฯประยุทธ์ ให้ตนเองไปตั้งพรรคการเมืองและบอกว่านายกฯประยุทธ์ ทำตัวเหมือนพญาหงส์ไม่กล้าลงหนองน้ำเล็ก ปล่อยให้กิ้งกือไส้เดือนอย่างตนเองไป ยืนยันว่าการไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกฯประยุทธ์ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ เป็นการคิดและดำเนินการด้วยตนเอง 
ตนเห็นว่า ชื่อพรรคดีมีความหมายดี ตนจึงสนับสนุนพรรคนี้ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับนายกฯเพราะท่านนายกฯไม่ได้ยุ่งเกี่ยวสั่งการตนกับเรื่องพรรคนี้ 

“ไม่เหมือนในอดีตที่นายทักษิณได้เป็นสส.และเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรมเพราะพลตรีจำลอง ศรีเมือง และตอนหลังตามกระทืบตามกัด พลตรีจำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม แบบเอาเป็นเอาตาย จนพลตรีจำลองต้องเอามวลชนมาขับไล่ คนที่เนรคุณพลตรีจำลองที่อุตส่าห์สนับสนุนให้ลงสู่ถนนการเมืองแบบนี้ใช้ได้หรือไม่ ตัวอย่างผู้นำที่เนรคุณผู้มีพระคุณ ทำกับพลตรีจำลองเช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ตนเองยังมีข้อมูลของนายทักษิณอีกมากมายที่ยังไม่อยากเอามาพูดในตอนนี้

'แรมโบ้' ยืนยัน 'รัฐบาลบิ๊กตู่' อยู่ครบเทอม ไม่ยุบสภา 

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลบริหารงาน แก้ไขปัญหาหลายอย่าง พัฒนาประเทศในหลายด้าน ให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนมากที่สุดโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สิน นายกฯเข้าใจปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นอย่างดี และขณะนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จึงทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น

นายกฯและรัฐบาล ตั้งเป้าให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน”ให้สำเร็จให้ได้  มีคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยขึ้นมาแก้ไขหนี้สิน  เช่น หนี้ กยศ.  หนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและเอสเอ็มอี ตนยืนยันว่านายกฯและรัฐบาล มีความมุ่งมั่น จริงใจ ที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนอย่างมาก  อยากทำให้สำเร็จให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ขึ้น
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top